Review App Wallet by truemoney

รีวิว แอพ Wallet by truemoney

เป็นแอพใช้ำสำหรับ เติมเงิน จ่ายบิล ซื้อสติกเกอร์ไลน์ ซื้อไอเทมเฟสบุ๊ค

มีให้ใช้งานทั้ง IOS และ Android

หลังทำการติดติดตั้งแล้ว เปิดแอพใช้งานครั้งแรกต้องทำการลงทะเบียนก่อน

หลังจากทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

ทำการเข้าสู่ระบบด้วย อีเมลล รหัสผ่านที่ลงทะเบียนเอาไว้

หน้าจอหลัก จะแสดง ชื่อผู้ใช้ที่ลงทะเบียน จำนวนเงินใน ระบบ ประวัติการทำรายการ

การเติมเงินเข้า Wallet หรือ สามารถทำได้หลายวิธี

เติมผ่านธนาคาร ทำได้ โอนทาง Internet Banking, ATM, หรือการผูกบัญชี

เติมผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-eleven, CP Fresh Mart, true shop

.

การเติมเงินเข้า wallet ผ่านทางธนาคาร ทำได้หลายวิธี

ผูกบัญชีธนาคาร คิดว่าเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะหลังจากทำตามขั้นตอนในครั้งแรกแล้ว สามารถคลิกเติมเงินในแอพได้เลย ไม่เข้าไปเข้าแอพของธนาคารเพื่อโอนเงินอีกเลย

การจ่ายบิล สามารถ สแกนบาร์โคด จากบิล แล้วชำระได้เลย
หรือกดเลือกบิลตามประเภทแล้วทำตามขั้นตอน สำหรับบิลที่สแกนไม่ติดหรือไม่มีบาร์โคด
(ขณะเขียนบทความ ยังไม่สามารถชำระบิล ได้ครบทุกบริษัท)

 หลังจาก สแกนบาร์โคดแล้ว จะแสดงรายละเอียดและยอดที่ต้องชำระ
ให้เลือกที่ชำระด้วย wallet

 รอรับรหัส otp
เมื่อได้รหัสมาแล้ว นำรหัสมาใส่แล้วสไลด์แถบด้านล่างเพื่อนยืนยันการชำระ

แสดงรายละเอียดการชำระบิลเรียบร้อย

การเติมเงิน

สามารถเติมเงินมือถือได้แต่ระบบทรูมูฟ เอช

ซื้อบัตรทรูมันนี่้ ซื้อสติกเกอร์ไลน์ และซื้อไอเทมเฟสบุ๊ค

Line ช่วยแปลภาษา TH-EN ได้แล้ว

Line ช่วยแปลภาษา TH-EN/ EN-TH

Line ได้เพิ่ม Official Accounts ที่ใช้ในการแปลภาษาเพิ่มขึ้นมาชื่อว่า
TH-EN translator

วิธีการใช้งาน
ให้ไปที่ Friends เลื่อนไปที่ Official Accounts

กดเข้าไปที่ Official Accounts เพื่อสแดงรายชื่อข้างใน

จะเห็นชื่อ TH-EN translator กดอีกครั้ง แล้วเพิ่มเป็นเพื่อน

วิธิการใช้ก็เหมือนการคุยแชทไลน์ปกติ

พิมพ์เข้าไปได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ

 ทดสอบการใช้งาน

การแปลก็แปลได้ด้วยเร็วดี ส่งปุ๊ปตอบปั๊ป
ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ต้องสลับไปยังแอพอื่นเมื่อต้องการคุยกับชาวต่างชาติ
แต่ก็ยังคงเป็นการแปลแบบง่ายๆ เท่านั้น ประมาณ Google translator

Line ลงทะเบียน E-mail

การลงทะเบียน E-mail ใน Line

ลงทะเบียนแล้วมีประโยชน์อย่างไร

• เพื่อป้องกันสติกเกอร์ที่ซื้อมาหาย
• เพื่อใช้ในการเปลี่ยนมือถือใหม่ รายชื่อเพื่อ กลุ่ม สติกเกอร์ต่างๆ จะยังคงอยู่
• เพื่อใช้งานบน คอมพิวเตอร์

ขั้นตอนการลงทะเบียนอีเมลล์

เปิด Line ขึ้นมาและ เข้าไปที่เมนูตั้งค่า

เลือกที่บัญชี

สังเกตุดูตรง ลงทะเบียนอีเมล

ถ้าขึ้นว่ายังไม่เสร็จ แสดงว่ายังไม่ได้ลงทะเบียน

ให้เข้าไปที่ลงทะเบียนอีเมล

ให้ใส่ E-mail และใส่รหัสผ่านที่ต้องการ 

กำหนดเอง ไม่เกี่ยวข้องกับรหัสผ่านของเมล

ใส่แล้วกดที่ ลงทะเบียน

Line จะส่งรหัสยืนยันให้ทาง E-mail ที่ได้ลงทะเบียนไว้

ก็เปิด E-mail และนำรหัสยืนยัน มาใส่

กดลงทะเบียน อีกครัง

เสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียน

เมื่อเราเปลี่ยนเครื่องใหม่ ในเปิดใช้งาน Line ครั้งแรก 

ให้เลือกที่ ล็อคอินด้วยอีเมล และใส่อีเมลและพาสเวิดที่ได้ลงทะเบียนไว้

รายชื่อเพื่อน กลุ่มต่างๆ และสติกเกอร์ที่เคยซื้อไว้ก็จะคงอยู่ ไม่หายไปไหน

รับส่งรูปภาพด้วย Camera 360

รับส่งรูปภาพด้วย Camera 360

แอพ Camera360 เป็นแอพยอดนิยมในการถ่ายภาพ เพราะมีฟังชั่น ช่วยในการปรับแจ่งภาพให้สวยงาม พร้อมทั้งความสามารถอื่นๆ ใน V.5.4 ได้เพิ่มความสามารถใหม่ๆ เข้ามา หนึ่งในนั้น มีความสามารถน่าสนใจและเป็นประโยชน์คือ การรับส่งรูปได้โดยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต ไม่ต้องส่งผ่านแอพอื่น คือถ่ายรูปด้วย 360 แล้วก็ส่งหาเครื่องอื่นได้เลย เพราะส่วนมากก็จะมี แอพนี้กันทุกเครื่องอยู่แล้ว สามารถแลกเปลี่ยนรูปกันได้อย่าง สะดวกรวดเร็ว

การใช้งาน Camera360 รับส่งรูปภาพ

เปิดแอพ Camera 360

กดเลือกที่ รูปคนมุมซ้ายบน

กดเลือกที่ Transfer

เครื่องที่จะส่งไฟล์ให้เลือกที่ Send

เลือกรูปที่ต้องการส่ง

เครื่องที่ส่ง จะแสดงสถานะการเชื่อมต่อ

ที่เครื่องต้องการรับรูป

เลือกรับรูป

จะเข้าสู่สถานะรอ

ที่เครื่องส่งจะแสดงเครื่องที่อยู่ใกล้เคียงที่อยู่ในสถานะรอรับ

ให้คลิกเลือกที่เครื่องที่เราจะทำการส่งภาพไปให้

ที่เครื่องรอรับ จะแสดงว่า มาจาก GT-I9500

กดเลือกที่รับ ก็จะเป็นการรับไฟล์ที่ส่งมา

กดปฏิเสธ ก็คือไม่รับไฟล์ที่ส่งมา

เมื่อเสร็จแล้วก็จะแสดง ได้รับสำเร็จ
รูปก็จะมาอยู่ในเครื่องปลายทางเรียบร้อย

สรุป

อีกหนึ่งความสารมารถของ Camera360 เหมาะสำหรับ คนที่พกสองเครื่อง หรือไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วต้องการแชร์รูปที่ถ่ายไว้ จำนวนมากๆ ด้วยการรับส่งไฟล์โดยตรงผ่าน Wi-fi ไม่ต้องพึ่งพาอิน เตอร์เน็ต 3G ทำให้การรับส่งไฟล์ทำได้รวดเร็วมาก ไม่เสียเวลา และไม่เปลืองแพคเกคอิตเตอร์เน็ต ลองนำไปประยุกต์ใช้กันดูนะครับ

การเปลี่ยน Battery UPS

การเปลี่ยน Battery UPS APC ES 500

UPS หรือเครื่องสำรองไฟ เมื่อใช้งาน ซักประมาณ 1-2 ปี มักจะมีอาการไม่สำรองไฟ เปิดไม่ติด
อาจเป็นที่ Battery เสื่อม ซึ่งตามปกติอายุการใช้งาน ก็ประมาณ 1-2 ปี
วิธีที่จะทำให้ UPS กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง คือการเปลี่ยนแบตเตอรี่

เตรียมพร้อม สิ่งที่ต้องมี

• ไขควง 4 แฉก
• Battery 12V 7.2 Ah (ขนาดความจุขึ้นอยู่ขนาดของ UPS)
• เครื่อง UPS (ในที่นี้เป็น APC ES500)

จับพลิกด้านหลังจะเห็นรูน็อต มีอยู่ 5 ตัว

ใช้ไขควงไขออกทั้งหมด

เปิดฝาหลังออก จะเห็นภายใน ประกอบด้วย หม้องแปลง แผงวงจร แบตเตอรี่

ทำการถอดแบบเตอรี่ตัวเก่าออก โดยค่อยๆ ถอดขั๊วแบตออก ที่ละข้าง

นำแบตเตอรี่ตัวใหม่ ที่เราเตรียมไว้มาเปลี่ยนแทน
ตรวจสอบดูว่ามี แรงดัน และความจุ เท่าตัวเดิม ในรูปคือ 12V 7.2Ah

นำแบตเตอรี่ตัวใหม่ เข้าใส่แทน เสียบสายสีแดง กับขั๊วแบตสีแดง สีดำกับสีดำ

เสียบเสร็จจัดแบตเตอรี่ให้เข้าที่ และทำการปิดฝาครอบ ไขน็อตให้เรียบร้อย

ทดสอบการใช้งาน
- เสียบสายไฟเข้า UPS นำอุปกรณ์ไฟฟ้ามาเสียบกับ ตัว UPS
- ดึงปลั๊กไฟ UPS ออก
ถ้า UPS ทำงานปกติ ก็จะส่งเสียงร้อง ตี๊ดๆ และอุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานได้ต่อเนื่องไม่ดับ

ถ้าถอดปลั๊กแล้วไม่มีเสี้ยงตี๊ดๆ อุปกรณ์ไฟฟ้าดับทันที
เป็นได้ว่าแบตเตอรี่ยังไม่มีไฟ ลองเสียบปลั๊กชาร์จไฟทิ้งไว้ซัก 8-12 ชม. แล้วทดสอบอีกครั้ง

สรุป
การเปลี่ยนแบตเตอรี่ UPS สามารถทำได้ ด้วยตัวเองง่ายๆ ในตัวอย่างเป็นของ APC ES 500 โดยแต่ละ ยี่ห้อและรุ่นอื่นๆ ก็สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ได้เช่นเดียวกัน อาจแตกต่างกันที่ รูปร่างของตัวเครื่องและวิธีในการเปิด ฝาเครื่อง UPS

ข้อควรระวัง
- ห้ามเสียบปลั๊กไฟของ UPS ขณะทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่

รีวิว K-Mobile Banking Plus

รีวิว K-Mobile Banking Plus

K-Mobile Banking Plus คือ แอพ สำหรับทำธุรกรรมทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย มีให้ใช้ทั้ง IOS และ Android

ที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น

• เช็คยอดคงเหลือในบัญชี
• โอนเงิน
• เติมเงินมือถือ 
• จ่ายบิลค่าบริการต่างๆ

เริ่มต้นใช้งาน K-Mobile Banking PLUS  เราต้องสมัครใช้บริการก่อน

ขึ้นตอนการสมัคร

1. ดาวน์โหลด และติดตั้งโปรแกรม K-Mobile Banking PLUS

2. เข้าโปรแกรม K-Mobile Banking PLUS เพื่อรับรหัส One-Time Password (OTP) 6 หลักทาง SMS เพื่อใช้ในการสมัคร

3.เปิดใช้บริการได้ด้วยตนเองที่ตู้ ATM ธนาคารกสิกรไทย

        -  เลือก "กองทุน / สมัครบริการ / K-Mobile Banking / อื่นๆ"

        -  เลือก "สมัคร K-Mobile Banking"

        -  เลือก "K-Mobile Banking PLUS"

        -  เลือก "สมัคร K-Mobile Banking PLUS"

ใส่เลขมือถือ 10 หลัก 

ใส่รหัส OTP 6 หลัก

ตั้งรหัสใหม่ที่ต้องการ

เริ่มใช้งาน K-Mobile Banking PLUS 

เปิดแอพ หน้าจอจมีแสดงอัตราแลกเปลี่ยนประเทศต่างๆ 

 เลือกเข้าสู่ระบบ

การใช้งานด้วย Wi-fi 

จะได้รับการแจ้งเตือน ว่าจะใช้งานได้เฉพาะ รายการโปรดเท่านั้น 

จะใช้งานอื่นๆ ได้ต้องทำงานด้วยระบบ 3G หรือ Edge (แนะนำว่าควรใช้งานด้วย 3G)

ใส่รหัสผ่าน ที่ได้ตั้งไว้ในขึ้นตอนสมัครใช้บริการ

- การเปิดใช้งานครั้งแรก จะให้ตั้งชื่อของผู้ใช้ และตั้งค่าการแสดงผล

หน้าจอหลัก ของแอพ 

- ตรงแสดงยอดเงินที่ใช้

- ด้านล่าง ประกอบด้วยเมนู โอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล รายการโปรด ประวัติ สมัครบริการ

เมื่อกดที่ยอดเงินคงเหลือ จะแสดงรายการเคลื่อนไหวล่าสุด

การโอนเงิน

ทำได้โดยเลือก ที่โอนเงิน เลือกธนาคารปลายทางที่ต้องการโอน

ใส่หมายเลขบัญชี จำนวนเงิน และกดโอนเงิน

หน้าจอโอนเงิน จะแสดงข้อมูลบัญชีผู้โอน และหมายเลขบัญชี ชื่อบัญชีของผู้รับโอน

ตรวจสอบว่าเลขที่บัญชีถูกต้อง ก็กดยืนยัน เพื่อทำรายการ

สลิป แสดงรายละเอียดการโอนเงิน

ซึ่งจะถูกบันทึกอัตโนมัติ สามารถส่งรูปสลิปนี้ ให้ผู้รับ เพื่อยืนยันการทำรายการ

การเติมเงิน สามารถเติมเงินได้ทั้ง มือถือ, อีซี่พาส

การเติมเงินมือถือ สามารถเติมได้ทั้งเบอร์ตัวเอง และเบอร์อื่นๆ

• โดยเลือกที่เมนูเติมเงิน 
• รายการใหม่
• มือถือ
• เลือกระบบที่จะเติม
• ใส่เบอร์ที่ต้องการเติม
• จำนวนเงินที่ต้อง
• กดเติมเงิน

จ่ายบิล

การจ่ายบิลก็สามารถทำได้ง่าย โดยเลือก จ่ายบิล

แล้วเลือกว่าต้องการจ่ายบิลอะไร สามารถจ่ายด้วย Bar code ได้

รายการโปรด สำหรับธุรกรรมใดที่ทำบ่อยๆ สามารถบันทึกเก็บไว้ เช่น

- โอนเงินให้พ่อ

- เติมเงินให้แม่

ทำให้ไม่ทำรายการได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

สรุป

 K-Mobile Banking PLUS เป็นแอพที่ช่วยให้ทำธุรกรรมทางการเงินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปที่ตู้ ATM หรือที่ธนาคาร หรือแม้กระทั่ง เซเว่น อีเลฟเว่น 

สำหรับคนที่ใช้ K-Cyber Banking อยู่แล้ว คิดว่าโหลดแอพนี้มาแล้วจะเข้าใช้งานได้เลย คิดผิดครับ เพราะ แอพตัวนี้ต้องทำการ เปิดใช้งานครั้งแรกที่ตู้ ATM และตั้งรหัสผ่านใหม่ เป็นคนละอันกับที่ใช้บน K-Cyber Banking รายการโปรดที่บันทึกไว้ ใน K-Cyber ก็ไม่ได้ถูกดึงมาอยู่ในรายการโปรดของแอพแต่อย่างใด และเช่นเดียวกัน รายการโปรดในแอพก็จะไม่ถูกนำไปใช้ใน K-cyber เช่นกัน

หวังว่า จะช่วยให้ นำแอพนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กันได้นะครับ

การใช้งาน Dropbox

การใช้งาน Dropbox 

Dropbox คืออะไร? ดีอย่างไร

Dropbox ก็คือ พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ สามารถใช้งานได้ทั้ง คอมพิวเตอร์และมือถือ ไม่ว่าจะตระกูลไหน Windows, MAC, Linux, IOS, Android, Windows Phone ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทีมีอินเตอร์เน็ต ทำให้สะดวกในพกพาไฟล์ต่างๆ ไปใช้งาน โดยไม่ต้องพก Flash Drive หรือ External Harddisk ให้ยุ่งยาก

การใช้งาน Dropbox

1. สมัครสมาชิก เริ่มต้นใช้งานครั้งแรกให้ เข้าไปที่ dropbox.com และคลิกที่ Sign up

โดยการสมัครแบบฟรี จะได้พื้นที่เก็บข้อมูลประมาณ 2 GB

2. กรอกรายละเอียด ชื่อ-นามสกุล E-mail และ Password

3. ทำการ Download โปรแกรม Dropbox ขณะเขียนบทความ เป็น V.2.10.28

4. ติดตั้ง ตัวติดตั้งจะทำการดาวโหลดส่วนประกอบอื่นๆ 

5. เปิดโปรแกรม Dropbox ขึ้นมาจะเห็นหน้าตาโปรแกรมแบบนี้

ให้ทำการใส่ชื่อ E-mail และ Password และกดที่ปุ่มลงชื่อเข้าใช้งาน

6. คลิกที่ปุ่ม เปิดโฟดเดอร์ Dropbox ของฉัน

จะเห็นโฟดเดอร์ ต่างๆ ใน Dropbox ของเรา ก็เริ่มใช้งาน วางไฟล์ แก้ไข ลบ ไฟล์ต่างๆ ได้เหมือนกับเป็นโฟดเดอร์ปกติในเครื่องเราเลย

7. ที่บริเวณ Task bar แสดงภาพการซิงค์ ข้อมูล

เมื่อติดตั้ง โปรแกรม Dropbox ในเครื่องแล้ว การกดปุ่ม PrtScn 

จะสามารถบันทึกภาพลงโฟดเดอร์ใน Dropbox ได้ทันที

การใช้ Dropbox บนมือถือ Android

1. ทำการติดตั้ง โดยไปที่ Play store กดค้นหา Dropbox

 เมื่อเจอแล้วก็กด Install บางเครื่องอาจมีติดตั้งอยู่แล้ว ก็เพียงกด Update

 2. Sign in กรอก E-mail และ Password ที่ได้สมัครไว้แล้ว

3. เข้าสู่หน้าจอ Camera Upload

คือการอัพโหลดรูปภาพในเครื่องเราอัตโนมัติ

ไม่ต้องการเปิดกด Skip ถ้าต้องการเปิด กด Turn on Camera Upload

แนะนำให้ปิดไว้ครับ เพราะจะทำให้เปลืองค่าอินเตอร์เน็ต และเปลื้องพื้น 

4. การอัพโหลดรูปภาพเข้า Dropbox 

ทำได้โดยการเปิดรูปภาพที่ต้องการ แล้วคลิกที่ปุ่มแชร์ เลือกที่ Add to Dropbox

หรือไฟล์แบบอื่นก็ทำได้ด้วยวิธีเดียวกัน

5. จะมีโฟดเดอร์ขึ้นมาให้เลือกว่าต้องการอัพโหลดไปไว้ที่ไหน เลือกโฟดเดอร์ที่ต้องการแล้ว กดที่ปุ่ม Add รูปของเราก็จะถูกอัพโหลดขึ้นไปเก็บไว้ที่ Dropbox

ถ้าเราใช้งานทั้งในข้อมูลต่างๆ ก็จะเหมือนกันทั้งในมือถือ และในเครื่องคอมพิวเตอร์

หวังว่าจะช่วยให้สามารถนำ Dropbox ไปใช้ประโยชน์กันได้นะครับ